Basic Money เรียนรู้เรื่องเงิน จากคลิปดี ๆ Day 1

เงินทองเป็นเรื่องสำคัญ ใครไม่รู้เรื่องบริหารการเงินส่วนบุคคล มีโอกาสสูงที่จะไม่รวย ไม่มีความมั่งคั่ง

เมื่อวานก่อน เราเปิดดู youtube เรื่องเกี่ยวกับการเงินไปเรื่อยๆ จนได้พบกับคลิปที่ดี ของคุณทอย DataRockie ft. TAXBugnoms ที่ทำให้เราได้ลงเรียนรู้ พื้นฐานของเรื่องการบริหารการเงิน

คลิปต้นฉบับ Money 101

คลิปนี้ให้ความรู้เยอะมาก และค่อนข้างเข้าใจง่าย เพราะเป็นสไตล์เหมือนเป็นรุ่นพี่สองคน นั่งสอนนั่งติวในโต๊ะว่างๆริมตึกมหาวิทยาลัย ด้วยความที่คลิปยาวเกือบสองชั่วโมง จึงขอทำเป็นบทความเพื่อทำสรุปให้ตัวเองเข้าใจมากยิ่งขึ้น …

Money 101

1 มีสภาพคล่อง (รายได้ vs รายจ่าย) : อย่างน้อยในแต่ละเดือน เราควรจะมีรายได้ มากกว่ารายจ่าย สิ่งสำคัญเริ่มต้นคือ การควบคุมรายจ่าย เพราะเมื่อเวลาผ่านไป เรามีรายได้ต่อเดือนมากขึ้น มนุษย์มักจะเพิ่มรายจ่ายให้สอดคล้องกับรายได้เสมอ (Money inflation)

  • ทราบว่าแต่ละเดือนมีรายจ่ายเท่าไร
  • มีเงินสำรองฉุกเฉิน ที่เราสบายใจจะเก็บ คือเท่าไร (หลายคนแนะนำ 6 เดือน ถึง 1 ปี ของรายได้ต่อเดือน แต่ถ้ามีแล้วยังรู้สึกไม่สบายใจ สามารถเก็บได้เป็นตัวเลขไปถึง 2 ปี) *เงินสำรองฉุกเฉินไม่เท่ากับเงินลงทุน เงินนี้เหมาะกับเก็บเป็นเงินสด หรือเงินฝากธนาคาร เพราะสามารถหยิบมาใช้ได้ทันที ยามจำเป็น **เงินฉุกเฉิน คือฉุกเฉินจริงๆ คือเกิดวิกฤตชีวิตเช่นตกงาน ไม่แนะนำเอาไปใช้ชีวิต ประจำวัน เช่น ไปเที่ยว ซื้อของขวัญชินใหญ่ ฯลฯ
  • ควบคุมรายจ่าย โดยการแยกเงินให้เป็น เช่น แบ่งเงินออกเป็น เงินสำหรับออม เงินสำหรับจ่ายหนี้ เงินสำหรับใช้จ่าย ฯลฯ ทั้งนี้แล้วแต่จริตของแต่ละคนว่าอยากแบ่งกระเป๋าแบบไหน แต่ตามประสบการณ์ตัวเอง แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการใช้เงิน เช่น กอง 1 ไว้จ่ายหนี้ กอง 2 ประกันชีวิต กอง 3 ลงทุน กอง 4 ใช้จ่ายชีวิตประจำวัน กอง 5 ไปเที่ยว กอง 6 งานสังคม เป็นต้น
  • การทำบัญชีรายรับรายจ่าย (Budget) ทำให้เราทราบถึงภาพรวมของการใช้จ่ายของเรา ว่าเราใช้จ่ายอะไรบ้าง แนะนำทำไว้ทบทวนรายจ่ายของตนเอง เพื่อทำให้สามารถคุมรายจ่ายและวางแผนการเงินได้ดีขึ้นในอนาคต (คนใน แชท แนะนำ make , app spendee)
Read more: Basic Money เรียนรู้เรื่องเงิน จากคลิปดี ๆ Day 1
  • การควบคุมกิเลสตัวเอง เรื่องการซื้อสิ่งของที่อยากได้ (อาจจะไม่จำเป็น แต่ของมันต้องมี) เขาเทคนิคดีๆ ให้ดังนี้
    • จ่ายเงินสด
    • หลีกเลี่ยงการเปิด app ซื้อของ (โดยเฉพาะสีฟ้าๆ หรือสีส้มๆ)
    • ยึดหลักการ Minimalism(/ Marie Kondo (สิ่งนี้มีแล้ว Sparkjoy ไหม ?)
  • สำรวจอะไรที่ คนอื่น มีให้เราได้บ้าง เช่น PVD (Provident Fund) ,สวัสดิการ ฯลฯ เราสามารถลดค่าใช้จ่ายของตนเอง ด้วยการใช้ผลประโยชน์ของบริษัท หรืองานที่ทำ หรือใช้สิทธิเมื่อจำเป็น เช่น สิทธิบัตรทอง สามารถทำฟันได้ฟรี ปีละ 3 ครั้ง เป็นต้น

2. ลดความเสี่ยง

  • ทราบความเสี่ยงที่ต้องพบและเจอ เช่น
    • สุขภาพ
    • สูญเสียโดยไม่คาดคิด (ตัวเอง หรือคนในครอบครัวเสียชีวิต)
    • การตกงาน
    • การดูแลและรักษาผู้ป่วยในบ้าน
    • น้ำท่วมบ้าน
  • เลือกประกันที่เหมาะสม โปรดจงคิดว่า ประกันคือประกัน ไม่ใช่เงินออม ไม่ใช่เงินลงทุน มีไว้ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิต
  • ถ้ามันยาก มีบริการ CSP หรือ financial advisor ช่วยคิดการวางแผนการเงินได้ เพราะพวกนี้เป็นปัจเจกบุคคล เราต่างมีแนวของตัวเองว่าเท่าไร ขนาดไหน ถึงจะมีแล้วสบายใจสุด

3. รู้เป้าหมาย ทราบว่ามีเงินไว้ทำอะไร เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ในอนาคต

  • ยกตัวอย่างเรื่องบ้าน ซื้อบ้านต้องคิดก่อน ว่าอยู่เอง หรือให้คนอื่นเช่า ผ่อนต่อเดือนไหวไหม ต้องคำนวณรอบด้านเพราะมันใช้เงินก้อนใหญ่มาก “นกน้อยทำรังแต่พอตัว” สมัยนี้ถ้ายังไม่พร้อม ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเลยก็ได้ เช่าไปก่อน ให้ “สภาพคล่อง” ตัวเองดีก่อน
  • เมื่อรู้เป้าหมายแล้ว ต้องเข้าใจความเสี่ยงด้วย ตั้งเป็นเป้าหมายระยะสั้น/กลาง/ยาว อย่าลืมตั้งเวลา (Timing) เสมอด้วย เพื่อสามารถวางแผนได้ดีมากขึ้น
  • ไม่มีคำว่าสาย สำหรับการลงทุน ศึกษาการลงทุนตามสไตล์ที่ตัวเองถนัด เช่น ชอบหุ้นลงทุนหุ้น ถนัดกองทุนลองซื้อกองทุน ***อย่าลืมศึกษาก่อนลงทุน อย่าเดา อย่าทำตามคนอื่น มีโอกาสเสียเงินก้อนสูง
  • การรักษาคนในครอบครัว ต้องดูกันเกมยาว เพราะโรคบางอย่างอาจจะต้องอยู่กันตลอดชีวิต เลือกแผนการรักษาตามความเหมาะสม ชนิด คนป่วยอยู่ได้ คนดูแลอยู่รอด

4. เกษียณเมื่อไร

  • เงินเท่าไรถึงจะพอ ยามเราหยุดทำงาน
  • คำนวณเงินเกษียณของตัวเองก่อน
  • แนวคิดรีบเกษียณไว อาจจะไม่ตอบโจทย์กับชีวิตตัวเอง ลองหาเป้าหมายชีวิตตัวเองว่า เราอยากประสบความสำเร็จด้านใด อะไรที่เติมเต็มชีวิตของเรา

5. ลงทุนยังไง

  • จัดพอร์ต หรือการกระจายการลงทุน (อย่าเก็บไข่ลงตะกร้าใบเดียว)
  • ลงทุนในความรู้ไว้ก่อน
  • อย่ารีบ ไม่ต้องกลัวตกรถ (FOMO) ความชิบหายคือขาดทุนมากกว่าเงินเฟ้อ

6. วางแผนภาษี

  • วัดผลไม่ได้ จ่ายแล้วไม่(รู้สึก)คุ้ม
  • เรามีหน้าที่จ่ายภาษี
  • ศึกษาค่าลดหย่อนภาษี
  • ศึกษาฐานที่ต้องจ่ายภาษี เพื่อวางแผนลดหย่อนภาษีได้เหมาะสม

7. ระยะทางอีกยาว…

  • มันมีสิ่งที่คุมไม่ได้อีกมากมายมาขัดขวางการเงินของเรา
  • เราต้องปรับให้เหมาะสม เพื่อชีวิตจะได้ดียิ่งขึ้น เย้ !ๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *